มีเป้าหมายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
บริษัทดำเนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัท "มหาชน" ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และได้เปลี่ยนชื่อจาก "บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด" เป็น "บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)" เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567
บริษัทดำเนินการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ไปที่ "467/6 อาคารมหาทุน ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120" เพื่อรองรับการเติบโตและเครียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต
บริษัทได้รับใบอนุญาตในการจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ VERTU ซึ่งเป็น Luxury Brand ระดับโลก โดยเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย ในการขายสินค้าสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆในนาม VERTU THAILAND ในช่วงปลายปี 2566
ขยายการดำเนินะูรกิจไปยังต่างประเทศ (O2O) เพิ่มมากขึ้น โดยมีหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเมือง Dubai
บริษัทมองหาโอกาสทางการค้าในระดับภูมิภาคเอเชีย โดยเริ่มเข้าสู่ธุรกิจการขายไปยังต่างประเทศหรือที่เรียกว่า O2O (Outbound to Outbound)
บริษัทมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50,000,000 บาท (ห้าสิบล้านบาท) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 และ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 150,000,000 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
เพิ่มการดำเนินธุรกิจโดยการขยายตลาดไปยัง B2C ผ่านช่องทางการขาย Marketplace ออนไลน์รวมไปถึงเว็บไซต์ของบริษัท
เปลี่ยนวัตถุประสงค์การประกอบธุรกิจจากธุรกิจการให้ยืมโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนในรูปแบบ "การเช่าหรือเช่าซื้อ" มาเป็นธุรกิจ "เทรดดิ้ง" โดยมุ่งเน้นการขายส่ง B2B เป็นหลัก
ก่อตั้งบริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาท) โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจให้ยืมโทรศัพท์มือถือในรูปแบบของการเช่าและเช่าซื้อ
ประสบการณ์ด้านการบริหารในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการที่มีมายาวอย่างต่อเนื่องของคณะผู้บริหาร จึงมั่นใจได้ว่า บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นมอลสิ่งที่ดีที่สุดในแง่ของคุณภาพและราคาให้แก่ลูกค้า
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายบัญชีและการเงิน
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย
Copyright © 2025 All Rights Reserved
Made by Kickdown Team